วิธีป้องกันปัญหา “ฟันโยก” ที่หลายคนมองข้าม
วิธีป้องกันปัญหา “ฟันโยก” ที่หลายคนมองข้าม
ปัญหา ฟันโยก ถือได้ว่าเป็นปัญหาที่มักเกิดขึ้นก่อนที่จะขยับขยายกลายเป็นโรคเกี่ยวกับ ฟัน และ เหงือกต่าง ๆ ที่ร้ายแรงขึ้นเรื่อย ๆตามลำดับหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องจากทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ บางคนละเลยต่อการเกิดฟันโยกในช่องปาก โดยคิดเพียงแค่ว่านี่คืออาการเล็กๆน้อยๆไม่ได้ร้ายแรงอะไรแต่อย่างใด ปล่อยทิ้งไว้เดี๋ยวก็หายเอง ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเข้าใจผิดของคนส่วนใหญ่ เพราะ การเกิดฟันโยกเท่ากับว่าช่องปาก เกี่ยวกับ เหงือกและฟัน ของท่านกำลังผิดปกติ และจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ตามมาแน่นอนหากไม่ได้ทำการรักษา
ในวันนี้ทางด้าน Idol Smile Dental Clinic จะขอพาท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับวิธีป้องกันฟันโยกเบื้องต้นกัน เพื่อไม่ให้ท่านต้องเกิดปัญหาตามมาดังต่อไปนี้
ฟันโยก ป้องกันได้อย่างไร ?
ก่อนอื่นเลยนั้นท่านผู้อ่านต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ฟันโยก คือการที่ช่องปากเกิดการผิดปกติบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเหงือก หรือว่าฟัน แต่เหตุที่เกิดการผิดปกตินั้นก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพช่องปากไม่ได้รับการรักษาหรือว่าสะอาดเพียงพอ ซึ่งตามหลักการแล้วการดูแลช่องปากให้สะอาดและถูกต้องตามวิธี เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ท่านห่างไกลจากโรคร้ายต่าง ๆในช่องปากได้แล้ว ส่วนวิธีการป้องกันอาการฟันโยกเบื้องต้นที่ต้องทราบนั้นมีอะไรบ้างลองไปอ่านกันดีกว่า
- ฟันยาง
ถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่นิยมใช้กันเป็นอย่างมาก คือการใส่ฟันยาง ไม่ว่าจะเป็นการใส่ฟันยางในขณะนอนหลับสำหรับคนที่นอนกัดฟัน และใส่ฟันยางในขณะที่เล่นกีฬาเพื่อป้องกันการกระแทกต่าง ๆที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการนอนกัดฟัน หรืออุบัติเหตุจากการกระแทกอย่างรุนแรงล้วนแต่เป็นต้นเหตุของการทำให้เกิดฟันโยกได้
- แปรงฟันให้สะอาด และถูกวิธี
สำหรับข้อนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทำเป็นประจำและสม่ำเสมอ ก็คือการแปรงฟันให้สะอาดและถูกต้อง การแปรงฟันที่ถูกต้องควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง คือ ตื่นนอนและก่อนนอน เพราะ 2 ช่วงเวลานี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มีเชื้อโรคหรือแบคทีเรียต่าง ๆในช่องปากเป็นจำนวนมาก ในช่วงเวลานี้จึงจำเป็นต้องแปรงฟันให้สะอาดที่สุด โดยระยะเวลาในการแปรงฟันที่ถูกต้องควรใช้เวลาในการแปรงฟันอย่างน้อยครั้งละ 2 นาที และให้ทำการปัดขนแปรงด้วยความเบามือ อย่าพยายามใช้การถูกด้วยความรุนแรง เพราะจะเป็นการทำลายเคลือบฟันแทนการทำความสะอาด และหากว่าชั้นเคลือบฟันถูกทำลายก็จะส่งผลให้เกิดฟันผุได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
- ไหมขัดฟัน
หนึ่งในการทำความสะอาดช่องปากที่สำคัญมาก ๆ คงหนีไม่พ้นการใช้ไหมขัดฟัน แต่กลับน่าแปลกใจที่หลายๆท่านมองข้ามการใช้ไหมขัดฟันแถมยังมีมุมมองว่าการใช้ไหมขัดฟันไม่ใช่สิ่งจำเป็นท่านกำลังเข้าใจผิด เนื่องจากว่ามีซอกฟันบางจุดที่แปรงสีฟันไม่อาจะเข้าถึง การใช้ไหมขัดฟันจึงเป็นการกำจัดเศษอาหารในส่วนนั้น เพื่อลดการเกิดปัญหารุนแรงต่าง ๆในช่องปาก การใช้ไหมขัดฟันควรทำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้งก่อนนอน และทำเป็นประจำในทุกวันอย่างสม่ำเสมอ
- เลือกใช้ยาสีฟันให้ถูก
อย่างที่หลายๆท่านทราบกันดีว่าสิ่งสำคัญอีกอย่างสำหรับช่องปากคงจะหนีไม่พ้นยาสีฟัน ซึ่งยาสีฟันในสมัยนี้นั้นมีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ หลายสารสกัด ล้วนแต่มีประโยชน์กับฟันทั้งนั้น แต่ในเบื้องต้นหากว่าไม่รู้จะเลือกยาสีฟันแบบไหน ควรเลือกยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพราะ ฟลูออไรด์เป็นหนึ่งในสารที่ช่วยปกป้องเคลือบฟันทำให้สุขภาพฟันและเหงือกของท่านแข็งแรง
- บ้วนปากให้น้อย
ถือว่าเป็นหนึ่งสิ่งที่หลายๆคนเข้าใจผิดมาโดยตลอดว่า การบ้วนปากหลังจากทำการแปรงฟันเพื่อกำจัดคราบยาสีฟันออกให้หมดเป็นสิ่งที่ถูกต้อง จริงๆแล้วจากการศึกษาวิจัยทั่วโลก ไม่แนะนำให้ทำการบ้วนปากหลังจากแปรงฟันเสร็จเสียด้วยซ้ำ เพราะ การบ้วนปากหลังจากที่ทำการแปรงฟันจะทำให้ฟลูออไรด์หลุดออกไม่เกาะติดผิวฟัน ส่งผลให้การแปรงฟันนั้นไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากยาสีฟันเลย การไม่บ้วนปากหลังแปรงฟันเสร็จจึงเป็นวิธีที่ถูกต้องในการรักษาสุขภาพฟันนั่นเอง
- พบทันตแพทย์เป็นประจำ
สำหรับการพบทันตแพทย์เป็นประจำอย่างน้อยทุก 6 เดือน ถือว่าต้องทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะในรอบ 6 เดือนนี้ ฟันของท่านใช้งานอย่างหนักและอาจจะขาดการดูแลที่ถูกต้อง การพบทันตแพทย์ก็เพื่อให้ได้ทราบถึงว่าสุขภาพช่องปากของเราเป็นอย่างไรบ้าง หากว่ามีสิ่งผิดปกติจะได้รีบทำการรักษาก่อนที่จะสายเกินไปนั่นเอง